Blue House หรือก็คือทำเนียบประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้
เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เลย มีด้วยกันหลายอาคาร กินพื้นที่กว้างราวๆ 60 กว่าเอเคอร์ ตั้งอยู่ทางเหนือของพระราชวังเคียงบกกุง นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่พระราชวังเคียงบกกุงส่วนใหญ่ก็จะไม่พลาดโอกาสที่จะแวะมาชม และถ่ายรูปกับบลูเฮาส์ด้วย เนื่องจากทั้ง 2 ที่นี้อยู่ใกล้กันนิดเดียวเองและจุดรับบัตรเข้าชมบลูเฮาส์ก็ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเคียงบกกุงด้วย แต่การที่จะเข้าบลูเฮาส์ได้ก็ยุ่งยากนิดนึงนะ อย่างว่าแหละเป็นถึงที่อยู่ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เลยน่ะ คือต้องวางแผนก่อนล่วงหน้า จะให้ปุ๊บปั๊บผ่านมาพอดีแล้วแวะเข้าเลยไม่ได้น่ะ เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเยี่ยมชมบลูเฮาส์ได้จะต้องเข้าไปจองตั๋วออนไลน์ผ่านทางเวบไซต์ก่อน >>http://www.cwd.go.kr/ (ขอบอกว่าคิวยาวมากต้องจองล่วงหน้าหลายวันเลยหล่ะ) การจองผ่านเวบก็ง่ายๆ เข้าไปเลือกวัน เลือกเวลาเข้าชมว่าจะเข้ารอบไหน แล้วก็กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าชม จองเสร็จจะได้มาเป็นโค๊ด ก็เอาโค๊ดที่ได้ไปรับบัตรที่พระราชวัง เข้าชมฟรี มีบริการรถ เที่ยวเองได้ไม่ยากเลย แต่ถ้ามากับทัวร์ ส่วนใหญ่ จะแวะให้ถ่ายรูปที่ด้านหน้าของอาคาร และรูปปั้นนกฟีนิกซ์
คนเกาหลีส่วนใหญ่เค้าจะไม่รู้จักทำเนียบประธานาธิบดีของเกาหลีในชื่อของบลูเฮาส์ (Blue House) กันสักเท่าไหร่ แต่เค้าจะรู้จักในชื่อของ ชองวาแด (Cheongwadae) บรรยากาศด้านในชองวาแดจะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ดูร่มรื่น ด้านหน้ามีแม่น้ำไหลผ่าน ด้านหลังมีภูเขารูปหัวมังกร ถือได้ว่าตั้งอยู่บริเวณที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในโซลเลยหล่ะ รอบๆจะมีตำรวจและทหารคอยตรวจตราความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และงดการถ่ายรูปบริเวณทำเนียบ นักท่องเที่ยวจะเยี่ยมชมได้แค่ด้านนอกและที่ที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วชองวาแดอาจจะไม่มีความน่าสนใจมากนัก แต่ถ้าบอกว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีย์เกาหลียอดฮิต เรื่อง “ซิตี้ฮันเตอร์” (CITY HUNTER) ที่นำแสดงโดย “Lee Minho” และ “Park Minyeong” แบบนี้แล้ว พวกที่ชอบตามรอยซีรีย์เกาหลีคงสนใจกันขึ้นมาเลยทีเดียว บริเวณที่สามารถถ่ายรูปได้และผู้คนให้ความสนใจกันเยอะ เห็นจะเป็นสวนดอกไม้สีขาวชมพู “โรสออฟซารอน” (Rose of Sharon)ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี ออกดอกงดงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และอนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างชาติของชาวเกาหลี คนเกาหลีเชื่อว่าเจ้านกฟีนิกซ์นี้ คือ อำนาจ พลัง และความเป็นนิรันดร์ แสดงถึงความอดทนต่อสู้ของชาวเกาหลีไม่ว่าจะเจออะไรมา ก็จะสามารถผ่านมันไปได้ เหมือนกับความเป็นนิรันดร์นั่นเอง อย่าลืมแวะไปดูกันน๊า